ภาษา
ตะกร้าสินค้า

ไมโครไคโตซาน

มีสต็อค
รหัสสินค้า
000190003
฿321.00
  • ซื้อ 120 ชิ้นขึ้นไป ราคา ฿164.78 ต่อชิ้นลด 49%

การใช้สารฮอร์โมนต่างๆ เช่นเอธิลีน, จิบเบอเรลลิน, ออกซินหรือสารกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ของพืชโดยตรง สามารถเพิ่มการเจริญเติบโตของพืชต่าง ๆได้ แต่ยังมีปัญหาอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น ความไม่สมดุลของสารเคมีในพืช สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่ฉีดพ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความปลอดภัยในสุขภาพของมนุษย์และพืชอื่น ๆ มลพิษทางดินและการเปลี่ยนแปลงค่า pH ของดิน เป็นที่ทราบกันแล้วว่า ไคโตซาน ผลิตจากไคติน ได้มาจากเปลือกกุ้ง กระดองปู คราบของแมลง และแกนปลาหมึก ไคโตซานถือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ในด้านการเกษตร เนื่องจากสามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ และไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์ ผลิตภัณฑ์ไมโครไคโตซาน ผลิตจากการฉายรังสีไคโตซาน ด้วยรังสีแกมมา โดยผลิตภัณฑ์ไมโครไคโตซาน ใช้เป็นสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชสาร เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและปลอดสารพิษ

ประโยชน์ของไคโตซานกับการเกษตร

1.ช่วยยับยั้งและสร้างความต้านทานโรคให้กับพืช

การยับยั้งเชื้อสาเหตุของโรคพืช ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด โดย ไคโตซาน จะซึมผ่านเข้าทางผิวใบ ลำต้นพืช ช่วยยับยั้งการเกิดโรคพืชในกรณีที่เกิดเชื้อโรคพืชแล้ว ยังรักษาโรคพืช และสร้างความต้านทานโรคให้กับพืชที่ไม่ติดเชื้อ โดย ไคโตซาน มี คุณสมบัติที่สามารถออกฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้น ต่อพืชได้ จะกระตุ้นระบบป้องกันตัวเองของพืช ทำให้พืชผลิตเอนไซม์และสารเคมีเพื่อป้องกันตนเองหลายชนิดพืชจึงลดโอกาสที่จะ ถูกคุกคามโดยเชื้อสาเหตุโรคพืชได้ ดังนั้นเกษตรกรจึงควรใช้ไคโตซานขณะที่พืชยังเล็กหรือตั้งแต่เริ่มเพาะปลูก ไคโตซานจะช่วยเคลือบ เมล็ดพันธุ์หรือแช่เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก ป้องกันเชื้อราที่จะมาทำร้ายเมล็ดพันธุ์ กระตุ้นการงอกของรากของเมล็ดพันธุ์ได้ดี เร่งรากยาวทำให้พืชสามารถกินปุ๋ยได้มากขึ้นดังนั้นจึงลดปุ๋ยลง เมื่อพืชกินปุ๋ยได้มากขึ้น ก็ขยายท่อลำเลียงพืชได้ดีขึ้น ลำต้นใหญ่ขึ้นพืชจึงสมบูรณ์ทำให้เพิ่มผลผลิต ทั้งผลผลิตที่ได้ก็มีคุณภาพดี . ป้องกันและกำจัดโรคพืช กระตุ้นให้พืชสร้างสารป้องกันโรคพืช เช่น ไฟโตอะเล็กซิน ไคติเนส รวมทั้ง ยับยั้ง RNA ของเชื้อราไม่ให้สามารถขยายพันธุ์ได้ พืชจึงแข็งแรง (90% โรคพืชเกิดจากเชื้อรา) ประหยัดยาฆ่าแมลง เชื้อรา โรคพืชเพราะไม่มีแมลงมากินต้นพืช ทำให้สามารถผลิตสารลิกนิน เพื่อ ป้องกันเชื้อราได้ด้วยตนเอง พืชจะแข็งแรงมีภูมิต้านทานต่อโรคได้ด้วยตนเอง พืชจะแข็งแรงมีภูมิต้านทานต่อโรค

2. ทำให้พืชเกิดการสร้างความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช

ไคโตซาน จะกระตุ้นให้มีการผลิตสารลิกนินและแทนนินของพืชมากขึ้น พืชสามารถป้องกันตัวเองจากการกัด ดูด ทำลายของแมลงศัตรูพืช จะสังเกตว่าต้นพืชที่ได้รับ ไคโตซาน จะมีแวกซ์เคลือบที่ผิวใบ ซึ่งปกติแล้วพืชจะสร้างสารเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวจากแมลงศัตรูพืชและโรคพืชต่างๆ แต่ในต้นพืชที่ไม่สมบูรณ์มากพอการสร้างสารแวกซ์เหล่านี้จะบางตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อถูกแมลงเข้าทำลายจึงเสียหายได้ง่าย และในทิศทางเดียวกันเมื่อแวกซ์ของพืชถูกทำลายเป็นโอกาสให้เชื้อราหรือแบคทีเรียโรคพืชเข้าทำลายซ้ำอีกครั้ง การฉีดพ่นสารไคโตซานจึงไปช่วยในการเคลือบใบ ผลและดอกที่ถูกแมลงศัตรูพืชทำลาย ทำให้เชื้อราหรือแบคทีเรียโรคพืชไม่สามารถเข้าไปย่อยสลายเซลพืชได้

3.สารเร่งการเจริญเติบโตของพืช

ไคโตซานถูกใช้เป็นสารเร่งการเจริญเติบโต ให้ผลเช่นเดียวกับฮอร์โมนเร่งราก ใช้กระตุ้นการงอกของกิ่งชำไม้ดอกและไม้ประดับต่างๆ โดยนำส่วนของพืชที่ต้องการชำแช่ในสารละลายเจือจางของไคโตซานประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนนำไปปักชำในวัสดุเพาะชำ การฉีดพ่นไคโตซาน

4. ช่วยปรับค่าPHและเป็นประโยชน์ต่อจุลินทรีย์ในดิน

ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน ไคโตซาน สามารถ ส่งเสริมการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน เช่น เชื้อที่มีประโยชน์ต่อพืช ทำให้เกิดการลดปริมาณของจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อโรคพืช ปรับค่า PH ของดินให้เป็นกลาง เป็นปุ๋ยให้แก่พืช พืชทุกชนิดที่ได้ใช้ ไคโตซาน จะทำให้พืชสามารถตรึงเอา ไนโตรเจนนำมาใช้ได้ถ้าเป็นเห็ดสามารถตรึงเอาคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ได้เป็น อย่างดี ไคโตซานมีประจุแกรมบวกเยอะมาก และพืชที่ได้ใช้ไคโตซาน สามารถดูดซึมเอาธาตุอาหารในดินหลายชนิด

5.ประโยชน์ของการใช้ไคโตซานหลังการเก็บเกี่ยวพืชผล

พืชที่ใช้ ไคโตซาน ทุกชนิดจะเก็บไว้ได้ยาวนานกว่าพืชที่ไม่ได้ใช้ (พิสูจน์ได้) โดยการรักษาคุณภาพผลผลิต เพราะว่าพืชที่ใช้ไคโตซาน มีการเคลือบบนผิวผักผลไม้ เป็นลักษณะฟิล์มบางใสๆ ปราศจากสีและกลิ่น ทนทานต่อสภาวะกรดได้ดี
ไคโตซานมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเจริญเติบโตของราบางชนิด ซึ่งจะยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราโดยตรง และกระตุ้นกระบวนการต่างๆ ในเนื้อเยื่อพืชให้เกิดภูมิต้านทานต่อเชื้อราบางชนิด ดังนั้นจึงได้มีการนำไคโตซานมาใช้ในการเคลือบผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่ายาฆ่าเชื้อราบางชนิด และยังปลอดภัย ไคโตซานเคลือบผิวส้มด้วยความหนาประมาณ 30-35 ไมครอน พบว่าสามารถเก็บรักษาส้มได้ถึง 35-40 วัน โดยคุณภาพ เช่น สีของเปลือกนอกไม่เปลี่ยนแปลง และใช้ไคโตซานเคลือบผลไม้อื่นๆ เช่น ลูกพีท ลูกแพร กีวี และสตรอเบอรี่เพื่อยืดอายุและควบคุมการเน่าเสียได้ดีขึ้น

วิธีใช้:

ตวงปริมาณของไมไครโตซานตามปริมาณที่ต้องการใช้กับพืช ตามคำแนะนำที่ฉลากข้างขวด เติมน้ำสะอาด และคนให้เข้ากัน จากนั้นฉีดพ่นทางใบหรือราดบนดิน ควรฉีดพ่นทุกๆ 7-10 วัน

คำเตือน:

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีชนิอื่นเมื่อฉีดพ่น

การจัดเก็บ:

ควรเก็บที่อุณหภูมิห้องและแห้ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรได้รับแสงแดดโดยตรง

หมายเหตุ:

สีอาจเปลี่ยนจากสีน้ำตาลอ่อนเป็นสีน้ำตาลเข้มขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป

เขียนบทวิจารณ์ของคุณเอง
คุณกำลังรีวิว:ไมโครไคโตซาน
คะแนนของคุณ